แบล็คแจ็ค เกมคาสิโนที่ทำเงินได้ง่ายได้เงินจริง
แบล็คแจ็ค เป็นอีกหนึงเกมคาสิโนที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยความสนุก ความตื่นเต้น การใช้ไหวพริบต่างๆในการเอาชนะคู่แข่ง จึงทำให้การเล่นเกมแบล็คแจ็ค เป็นเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักแล่นเกมมาจนถึงปัจจุบัน โดยในวันนี้หากใครที่ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยเล่นเกมแบล็คแจ็ค เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเกมแบล็คแจ็ค กันให้มากขึ้นเผื่อใครที่สนใจ และต้องการลองเข้าไปเล่นเกมคาสิโนรูปแบบนี้ดู รับประกันได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวัง เมื่อพูดถึงการเล่นเกมคาสิโนออนไลน์ในปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบเกมให้ทุกคนได้เข้ามาร่วมสนุกเข้ามาสร้างรายได้หรือเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมคาสิโนออนไลน์ของตัวเอง
เกมคาสิโนแบล็คแจ็ค
สำหรับเกมแบล็คแจ็คออนไลน์ (blackjack online) เปรียบเสมือนเป็นเกมไพ่คาสิโนที่ได้รับความนิยมไปทั่งโลก ด้วยรูปแบบเกมที่สร้างความสนุก ความตื่นเต้นให้กับผุ้เล่นเกมได้เป็นอย่างดี เกมแบล็คแจ็ค เป็นเกมที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรป ซึ่งในวิธีและขั้นตอนการเล่นไพ่แบล็คแจ็คนั้นก็ง่ายบื้องต้นเพียงผู้เล่นเกมต้องทำไพ่ของตัวเองให้มี 21 แต้มให้ได้ก็จะเป็นฝ่ายชนะ โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูวิธีการเล่นเกมแบล็คแจ็คเพื่อเป็นการพาทุกคนมาสนุกในโลกของเกมแบล็คแจ็คกันให้มากขึ้น
คำศัพท์ที่ใช้ในเกมแบล็คแจ็ค
ก่อนอื่นลองมาดูก่อนว่า คำศัพท์ที่จะใช้ในการเล่นเกมแบล็คแจ็คจะมีอะไรบ้าง เพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจในการเล่นเกมคาสิโนของทุกคน
- Blackjack คือ เมื่อมีการแจกไพ่ 2 ใบแรกแล้ว ผู้เล่นได้คะแนน 21 แต้ม
- Hit คือ การต้องการสู้โดยการเรียกไพ่เพิ่ม
- Stand คือ การหยุดโดยไม่ต้องการจั่วไพ่เพิ่ม เพราะพอใจในคะแนนของตัวเองแล้ว
- Double down คือ เป็นการลวเดิมพันเพิ่ม สำหรับผู้ที่มั่นใจในไพ่ของตัวเอง 100% (จะใช้เมื่อตอนแจกไพ่ 2 ใบ)
- Surrender (ใช้สำหรับแจกไพ่ 2 ใบแรก) เป็นการประกันเงินทุนครึ่งเดียว โดยการกดเพื่อยอมแพ้ ซึ่งผู้เล่นจะได้รับเงินรางวัลคืนครึ่งหนึ่ง
- Insurance (ใช้สำหรับแจกไพ่ 2 ใบแรก) เมื่อไพ่ใบแรกของเจ้ามือคือ A (มีสิทธิ์ชนะสูง) สามารถเลือกเพิ่มเงินสู้ได้ครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน โดยหากเจ้ามือชนะได้ แบล็กแจ็ค ผู้เล่นจะได้เงินตรงนี้ที่ทำ Insurance แต่หากเจ้ามือแพ้ก็จะริบเงินตรงนี้ไป
- Even Money สำหรับในกรณีที่ผู้เล่นได้ไพ่ แบล็คแจ็ค จะสามารถเลือกเก็บก่อน แต่ผู้เล่นจะชนะในอัตรา 1:1 แต่ถ้าผู้เล่นยอมลุ้นไม่เก็บไพ่ก่อน หากเจ้ามือได้ไพ่แบล็คแจ็ค ก็จะเท่ากับเสมอ แต่ถ้าเจ้ามือแพ้ ผู้เล่นจะชนะในราคา 2:3 นั่นเอง
หลายคนอื่นมาถึงตรงนี้อาจจะพอเข้าใจกติกาการเล่นเกมแบล็คแจ็ค กันอยู่บ้าง ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจเมากขึ้นกว่าเดิม ตามเราไปดูวิธีการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค กันเลยดีกว่า ว่าจะง่าย และช่วยให้ผู้เล่นสามารถเพิ่มความสนุก ความตื่นเต้น จากเกมแบล็คแจ็ค ได้มากแค่ไหน
วิธีการเล่นเกมแบล็คแจ็ค
ในการเล่นเกมแบล็คแจ็ค หากผู้เล่นไม่เคยเล่นเกมไพ่ หรือ ไม่เคยเล่นเกมคาสิมาก่อน จำเป็นที่จะต้องศึกษาในวิธีการเล่นเกมแบล็คแจ็คให้ดี เพราะมันจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำเงิน และยังช่วยลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเล่นเกมแบล็คแจ็คแล้ว หากคุณพร้อมแล้วตามเราไปดูวิธีการเล่นเกมแบล็คแจ็ค กันก่อนเลย
สำหรับการนับไพ่แบล็คแจ็ค คือ ไพ่ 2-10 มีแต้มตามหน้าเลขไพ่ และไพ่ J Q K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม ส่วน A มีแต้ม 1 หรือ 11
- เริ่มเกมโดยการแจกไพ่ ทั้ง 2 ฝั่น ระหว่างเจ้ามือ และ ผู้เล่น โดยหากฝั่งไหนได้ไพ่รวมแต้มแล้ว ได้ 21 แต้มหรือ ใกล้เคียงที่สุด ก็จะป็นผู้ที่ชนะไป
- ทั้งนี้ผู้เล่นสามารถจั่วไพ่ได้แต่ถ้าไพ่เกิน 21 แต้มจะเท่ากับ 0
- ทั้งนี้หากทั้ง2 ฝั่นมีแต้มม 21 เท่ากัน จะถือว่าเสมอ
เรียกได้ว่า กติกาในการเล่นเกมแบล็คแจ็คนั่นง่าย และสนุกมากทีเดียว หากคุณสนใจ หรือต้องการที่จะเข้ามาสมัครเพื่อเล่นเกมแบล็คแจ็คกับเรา เรามีทีมงานที่จะคอยให้บริการตลอด 24 ชม. อีกทั้งเว็บคาสิโนของเรา ยังมีโปรโมชั่นที่นาสนใจ ที่จะช่วยให้ผู้เล่นมีเงินทุนเพื่อนำไปเล่นเกมแบล็คแจ็ค หรือเกมคาสิโนที่ตัวเองสนใจได้เพิ่มมากขึ้น
เกมคาสิโนออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบเกมพนัน ที่จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงการเล่นเกมคาสิได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปคาสิโนเอง เพราะเพียงคุณมีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงเกมคาสิโนออนไลน์ที่คุณสนใจได้แล้ว ไม่ว่าจะบาคาร่า สล็อต รูเล็ต หรือเกมไพ่แบล็คแจ็ค คุณก็สามารถเข้ามาเล่นได้เท่าที่คุณต้องการ
ขั้นตอนการเล่นแบล็คแจ็ค
- ดีลเลอร์จะผายมือผ่านผู้เล่นทุกคน เป็นสัญญาณว่าให้วางเงินเดิมพันได้
- เมื่อวางงานเดิมพันเสร็จแล้ว ดีลเลอร์จะแจกไพ่แบบเปิดแต้ม เรียงให้ผู้เล่นจนครบ คนละ 2 ใบ
- ดีลเลอร์จะได้จั่วไพ่ใบที่ 2 เป็นคนสุดท้าย ซึ่งจะเป็นการจั่วแบบปิดหน้าไพ่
- ดีลเลอร์จะให้เราได้เริ่มเล่นก่อน โดยเรียงจาก ซ้ายมือ ไป ขวามือ (ของดีลเลอร์)
- ผู้เล่นแต่ละคน สามารถเลือกว่า จะ Hit, Stand, Double Down, Pair หรือ Secured
- เมื่อฝั่งผู้เล่นเสร็จแล้ว ดีลเลอร์จะเปิดไพ่ใบที่ 2 โดยมีสิทธิจั่วเพิ่มได้ ถ้าแต้มน้อยกว่า 16 หรือ 17 (แล้วแต่กฎของแต่ละโต๊ะ)
- หากดีลเลอร์ได้เกิน 21 จะถือว่า Busted เช่นเดียวกับผู้เล่น
รูปแบบการวางเงินเดิมพัน
จุดเด่นของเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ ที่ทำให้นักพนันรู้สึกเร้าใจ และทำเงินได้ง่าย ก็คือรูปแบบการวางเดิมพันของแบล็คแจ็คนี่แหละ
ซึ่งนอกเหนือจากเดิมพันแบบปกติ (Regular bet) ที่มีอัตราการจ่าย 1:1 นักพนันแบล็คแจ็คมืออาชีพหลายคน มักจะใช้รูปแบบพวกนี้ในการทำเงินด้วย
Behind Bet
ผู้เล่นสามารถวางเงินเดิมพันที่ช่องด้านหลังของผู้เล่นคนอื่นได้ เห็นใครมือขึ้น หรือรู้สึกถูกโฉลกใคร ก็วางเงินเดิมพันที่ด้านหลัง และยกให้เค้าตัดสินใจแทนได้เลยนั่นเอง
Perfect Pair
เมื่อไพ่ 2 ใบแรกที่ผู้เล่นได้รับ เป็นไพ่คู่กัน ซึ่งมันน่าสนใจตรงที่แบล็คแจ็คมีอัตราการคูณให้กับไพ่คู่ทั้ง 3 รูปแบบ คือ
- ไพ่คู่ผสม (Mixed Pairs) อัตราจ่าย 6:1 – ไพ่ที่มีค่าเท่ากัน แต่ไม่นับดอก เช่น ไพ่ Q โพดำ – Qเอซ, ไพ่ 10 ข้าวหลามตัด – 10 โพแดง เป็นต้น
- ไพ่คู่สีเหมือนกัน (Colored Pairs) อัตราจ่าย 12:1 – ไพ่ที่มีค่าเท่ากัน มีสีของดอกเหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องดอกเหมือนกัน เช่น ไพ่ 9 ข้าวหลามตัด – 9 โพแดง, ไพ่ J โพดำ – J ดอกจิก
- ไพ่คู่เพอร์เฟค (Perfect Pairs) อัตราจ่าย 25:1 – ไพ่ที่มีทั้งค่าและดอกตรงกัน 2 ใบ
21+3
เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเดิมพัน ที่ทำเงินให้นักพนันแบล็คแจ็คออนไลน์ได้ไวมาก ซึ่ง 21+3 คือ เดิมพันว่าไพ่ 2 ใบของเรา และ 1 ใบแรกของดีลเลอร์ เรียงกัน โดยแบ่งเป็น 5 แบบ คือ
- Suited Trips อัตราจ่าย 100:1 – ได้ไพ่เดียวกันทั้ง 3 ใบ มีทั้งดอกและเลขเหมือนกัน
- Straight Flush อัตราจ่าย 40:1 – ไพ่เรียงกัน 3 ใบ โดยมีดอกเหมือนกัน
- Three of a kind อัตราจ่าย 30:1 – ได้ไพ่ตอง หรือเลขเดียวกัน 3 ใบ (แต่ไม่นับดอก)
- Straight อัตราจ่าย 10:1 – ไพ่ 3 ใบ เป็นแต้มเรียงกัน แต่ดอกไม่เหมือนกัน
- Flush อัตราจ่าย 5:1 – ไพ่ทั้ง 3 ใบ ได้ดอกเหมือนกัน แต่เลขไม่เหมือนกัน